ทันตกรรมรากฟันเทียม : การปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแบบทั่วไป (Conventional Implant)
ที่บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์ เราเลือกใช้อุปกรณ์ และวัสดุในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม ที่ทันสมัยที่สุดจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำของโลก เช่น ITI implants จากบริษัท Straumann และ Replace Select จากบริษัท Nobel Biocare ซึ่งทั้งสองบริษัทนี้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ ความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยี และความก้าวหน้า ในโครงการงานวิจัยและการพัฒนาประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีเยี่ยมตลอดเวลา
นอกเหนือไปจากการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแบบทั่วไปแล้ว ยังมีการปลูกรากฟันเทียมแบบทันที หรือที่เรียกว่าการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมภายในวันเดียว ซึ่งสามารถทำการติดครอบฟันชั่วคราว บนรากฟันเทียมได้ภายในวันเดียวกัน>> ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแบบทันทีหรือหนึ่งวัน
ตัวอย่างคนไข้ทันตกรรมรากเทียมที่ BIDC
ขั้นตอนในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแบบทั่วไป
ในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแบบทั่วไปนั้นจะมีขั้นตอนการรักษาที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะทำเพื่อทดแทนฟันเพียงหนึ่งซี่ หรือทั้งปากเลยก็ตาม ซึ่งขั้นตอนของการรักษาทั้งหมดจะมีดังนี้
1. การเตรียมบริเวณที่จะทำการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
2. การปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมบนกระดูกขากรรไกร
3. ขั้นตอนการพักเพื่อรอการสมานระหว่างกระดูกขากรรไกรและรากฟันเทียมไททาเนียม
4. การติดเสายึด (Abutment) ลงบนรากฟันเทียมไททาเนียม
5. การติดครอบฟัน สะพานฟันหรือแผงฟันปลอม
การเตรียมบริเวณที่จะทำการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
เริ่มต้นด้วยการผ่าตัดเปิดเหงือกบริเวณที่จะทำการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม ในกรณีที่โครงสร้างของกระดูกขากรรไกรของผู้เข้ารับบริการมีความสมบูรณ์และแข็งแรงไม่เพียงพอ ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำการปลูกกระดูกเีทียม (Bone grafting) ก่อน ครั้นได้กระดูกขากรรไกรที่เหมาะสมแล้ว ทันตแพทย์จะทำการเจาะกระดูกเพื่อเตรียมการฝังรากฟันเ่ทียมไททาเนียม
การปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมบนกระดูกขากรรไกร
หลังจากขั้นตอนการเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว ทันตแพทย์จะทำการฝังรากฟันเทียมไททาเนียมลงในช่องกระดูกที่ได้รับการเจาะแล้วจึงทำการเย็บปิดแผล
ขั้นตอนการพักเพื่อรอการสมานระหว่างกระดูกและรากฟันเทีียมไททาเนียม - Osseointegration
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์เพื่อให้กระดูกขากรรไกรสามารถสมานตัวกับรากฟันเทียมไททาเนียม โดยการสร้างกระดูกเพิ่มเพื่อช่วยยึดรากฟันเทียมไททาเนียมให้มีความมั่นคง ซึ่งไหมที่ใช้เย็บแผลจะถูกตัดออกหลังจาก 7-14 วันของการผ่าตัด
การติดเสายึด ( Abutment ) ลงบนรากฟันเทียมไททาเนียม
หลังการเตรียมบริเวณที่ฝังรากฟันเทียมไททาเนียมอีกครั้งแล้ว ทันตแพทย์จะทำการติดเสายึด (Abutment) ลงบนรากฟันเทียมไททาเนียมที่ติดจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกระดูกขากรรไกรแล้ว เพืีีอใช้ในการรองรับครอบฟันหรือสะพานฟัน และด้วยเทคโนโลยีด้านการผลิตในปัจจุบันซึ่งมีพัฒนาการมากขึ้น ทำให้การผลิตเสายึด (Abutment) ส่วนใหญ่จะถูกผลิตออกมาหลายรูปร่างและมุมต่างๆกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามแก่ครอบฟันให้แลดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
การติดครอบฟัน สะพานฟัน หรือแผงฟันปลอม
ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำแบบครอบฟัน เพื่อให้ได้ครอบฟันที่มีขนาดและลักษณะที่ดีพร้อมเลือกสีที่เหมาะสมใกล้เคียงกับสีของฟันซี่อื่นๆ เมื่อได้ครอบฟันที่ต้องการแล้วทันตแพทย์จะทำการติดยึดครอบฟันบนเสา (Abutment) ด้วยซีเมนต์ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆแล้ว ผู้เข้ารับบริการก็จะได้ฟันซี่ใหม่ที่ให้ความสวยงาม แข็งแรงและสามารถใช้งานได้เหมือนฟันแท้ตามธรรมชาติ
การดูแลรักษา
หลังจากได้รับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแล้ว ทันตแพทย์จะแนะนำการดูแลรักษาความสะอาดและข้อปฏิบัติต่างๆ พร้อมนัดหมายเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยในครั้งต่อไป ซึ่งการดูแลความสะอาดที่ถูกวิธีเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากเพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและปัญหาสุขภาพปากและฟันได้
คำถามประจำเกี่ยวกับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
- จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่
- ต้องใช้ระยะเวลาทั้งหมดนานเท่าไรในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
- ต้องขอลางานนานเท่าไรเพื่อเข้ารับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
- มีโอกาสที่ร่างกายจะทำการต่อต้านรากฟันเทียมไททาเนียมบ้างหรือไม่
- คุณสมบัติสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องมีก่อนการเข้ารับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมคืออะไร
- จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ทำการทดแทนฟันที่สูญเสียไป
จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่
ในการผ่าตัดสำหรับปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมนั้นก็จะเหมือนกับการผ่าตัดโดยทั่วไป ที่ก่อให้เกิดความเจ็บ ปวดบ้าง เพียงแต่ไม่มากนักซึ่งก่อนการผ่าตัดเปิดเหงือกนั้น ทันตแพทย์จะทำการฉีดยาชาให้ก่อน รวมไปถึงการให้ทานยาแก้ปวดไว้ล่วงหน้า ซึ่งรายงานที่ได้จาก 95 % ของผู้เข้ารับบริการแจ้งระดับความเจ็บปวดที่ได้รับประมาณ 0-2 จากระดับวัด 0-10 ในวันถัดจากที่ได้รับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม อย่างไรก็ตามทันตแพทย์จะสั่งจ่ายยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดเพื่อรับประทานหลังจากได้รับการผ่าตัด พร้อมกันนี้ยังให้การดูแลและคำแนะนำตลอดหลังการผ่าตัด
ต้องใช้ระยะเวลาทั้งหมดนานเท่าไรในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
โดยทั่วไปการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมแบบทั่วไปจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6-8 สัปดาห์ซึ่งรวมถึงเวลาในการพักรอการสมานตัวของกระดูกกับรากฟันเทียมไททาเนียมแล้ว
ต้องขอลางานนานเท่าไรเพื่อเข้ารับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
โดยทั่วไปทันตแพทย์จะแนะนำให้ลาหยุดในวันที่เข้ารับการผ่าตัดเพื่อปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม และหนึ่งวันหลังการผ่าตัดเพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดและการทำงานที่ต้องใช้แรง แต่ในกรณีที่ทำการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมเพียง 1 ซี่นั้นอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลางานเลย เนื่องจากเป็นเพียงการผ่าตัดเล็กๆแทบจะไม่แตกต่างจากการถอนฟันแบบทั่วไปเลย อย่างไรก็ตามความจำเป็นในการลาหยุดนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาน ของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคล
มีโอกาสที่ร่างกายจะทำการต่อต้านรากฟันเทียมไททาเนียมบ้างหรือไม่
ตามปกติแล้วร่างกายจะไม่ทำปฏิกิริยาต่อต้านกับวัสดุไททาเนียมที่ใช้ในการทำรากฟันเทียม แต่มิได้หมายความว่าในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมจะต้องประสบความสำเร็จเสมอไป เนื่องจากยังคงมีปัจจัยสำคัญอีกหลายอย่างเช่น โรคในช่องปาก การใช้แรงในการบดเคี้ยวที่ไม่เหมาะสม หรือการดูแลรักษาความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาและความล้มเหลวในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
คุณสมบัติสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องมีก่อนการเข้ารับการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมคืออะไร
การปลูกรากฟันเทียมไททาเนียมมีความเหมาะสมที่จะใช้ในบุคคลที่สูญเสียฟันตั้งแต่หนึ่งซี่ขึ้นไป ซึ่งช่วยให้ผู้เข้ารับบริการสามารถมีฟันใหม่ที่มีความแข็งแรงเทียบเท่าได้กับฟันตามธรรมชาติ ไม่สามารถผุได้ และยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของกระดูกขากรรไกร ซึ่งในกรณีของผู้ที่สูญเสียฟันจำนวนมาก การปลูกรากฟันเทียมแบบยึดแผงฟันปลอมสามารถช่วยเพิ่มความมั่นคงให้แก่ฟันปลอม และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้เข้ารับบริการในการพูดหรือรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตามการเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อวิเคราะห์สภาพของช่องปากและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ทำการทดแทนฟันที่สูญเสียไป
ทุกครั้งที่ถูกถอนฟันออกไปกระดูกที่รองรับฟันจะเสื่อมไป ก่อให้เกิดปัญหากับฟันซี่ข้างเคียง อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวด ปัญหาฟันล้ม และอื่นๆ รวมไปถึงการขยายใหญ่ขึ้นของลิ้นเพื่อครอบคลุมพื้นที่ของฟันที่สูญเสียไป ดังนั้นการทดแทนฟันที่สูญเสียไปให้เร็วที่สุดจึงมีความสำคัญและมีความจำเป็นมาก เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆที่จะตามมา และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการเสียโอกาสที่จะได้รับการรักษาเนื่องจากปัญหาในช่องปากได้